วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2550

Nitro Fuel VS. Gasoline

รถบังคับวิทยุที่ไม่ได้ใช้พลังงานจากไฟฟ้าแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดซึ่งก็คือรถที่ใช้พลังงานจาก Nitro Fuel และ Gasoline
ซึ่งเชื้อเพลิงทั้งสองชนิดนี้แตกต่างกันโดยอย่างสิ้นเชิง

รถที่ใช้พลังงานจาก Nitro Fuel และ Gasoline มีข้อแตกต่างกันดังนี้

- รถที่ใช้พลังงานจาก Nitro Fuel จะมีขนาด 1:8 1:10 1:12 1:18 แต่รถที่ใช้พลังงานจาก Gasoline จะมีขนาด 1:5 หรือใหญ่กว่า
- Nitro Fuel ทำมาจาก methanol nitrometahne และน้ำมัน ซึ่งจะนำออกมาขายในรูปของกระป๋องและขวด
- รถที่ใช้พลังงานจาก Nitro Fuel จะมีใช้ glow plug ในขณะที่รถที่ใช้พลังงานจาก Gasoline จะใช้ spark plug
- รถที่ใช้พลังงานจาก Gasoline จะทำงานโดยการผสม Gasoline กับ motor oil


อุปกรณ์สำหรับการซ่อมบำรุงรถบังคับวิทยุ


ชุดอุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้ในการซ่อมรถบังคับวิทยุประกอบด้วย
-Tool Box
-Assortment of small, precision screwdrivers
-Standard and metric precision nut drivers
-Assortment of hex wrenches (including metric)
-Assortment of flat-head and Philips-head screwdrivers
-Needlenose pliers

อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยในการซ่อมแซมอย่างง่ายๆและการปรับแต่งรถ ซึ่งทางผู้ผลิตรถบังคับวิทยุจะมีชุดเครื่องมือต่างๆแถมมา
ให้กับรถสำเร็จรูปอยู่แล้ว
ยังมีอุปกรณ์หลายอย่างเช่น
-Car stand
-Fuel filler bottle
-Utility knife
-Rotary tool
-Soldering kit
-Glue gun
-Cordless screwdriver
-Peak charger
-Digital multimeter
-Temperature gauge
ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยในการซ่อมแซมให้รถบังคับวิทยุดียิ่งขึ้นตามแต่ที่เจ้าของรถต้องการที่จะเลือกใช้

อุปกรณ์หรืออะไหล่ต่างๆที่จำเป็นต้องมีในกล่องเครื่องมือขึ้นอยู่กับชนิดของรถที่เจ้าของรถใช้ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว
จะนิยมใส่ tire glue หรือแบตเตอรี่สำรองลงไปในกล่องเครื่องมือด้วย
อุปกรณ์และอะไหล่ต่างๆที่นิยมใส่เพิ่มลงไปในกล่องเครื่องมือได้แก่
-Tire glue
-Shock oil
-Air filter oil
-After-run oil
-ชุดแบ็ตเตอรี่สำรอง
-Variety of crystal sets
-glow plugs สำรอง
-เชื้อเพลิงสำรอง
-Balloons
-fuel tubing สำรอง
-Plastic tie straps (zip ties)
-cotter pins สำรอง

การใช้ tire glue จะช่วยรถเกาะติดถนนได้ดีขึ้นและยังช่วยในการหักโค้ง หรือหยุดอย่างรวดเร็ว ได้ดีอีกด้วย
การซ่อมบำรุงรถหลังการแข่งจำเป็นที่จะต้องใช้น้ำมันหลายชนิดในการซ่อมบำรุงเช่น shock oil ,air filter oil และ after run oil



เริ่มต้นกับเครื่องยนต์เชื้อเพลิง

เครื่องยนต์ไนโตรก็ต้องใช้ระบบรับส่งสัญญาณวิทยุและชิ้นส่วนพื้นฐานต่างๆเหมือนกับเครื่องยนต์ไฟฟ้า เพียงแต่ชิ้นส่วนพิเศษบางตัวเท่านั้นที่จะใช้เฉพาะเครื่องยนต์ไนโตร หากคุณจะใช้เครื่องยนต์ประเภทนี้อย่าลืมที่จะซื้อสิ่งของดังต่อไปนี้




RECEIVER BATTERY:
ต่างกลับเครื่องยนต์ไฟฟ้าที่จะใช้แบตเตอรี่แบบติดไปกับรถเพื่อส่งกระแสไฟให้กับมอเตอร์ ตัวรับสัญญาณและ servo แต่เครื่องยนต์ไนโตรจะต้องใช้แบตเตอรี่แยกออกมาเพื่อใช้กับ on-board radio gear ซึ่งเครื่องรับส่งสัญญาณส่วนใหญ่จะใช้ถ่าน AA 4 ก้อนเพื่อทำงาน แต่ในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ทุกครั้งจะเป็นอาไรที่เปลืองตังค์มาก ดังนั้นผู้เล่นรถ RC ส่วนใหญ่จึงเลือกใช้ถ่านแบบที่สามารถอัดไฟเข้าไปใหม่ได้แทน ซึ่งการใช้แบตเตอรี่แบบนี้เราก็จำเป็นต้องซื้อตัวชาร์ตไฟด้วย ซึ่งถึงแม้ว่าจะดูแพงไปสักหน่อยแต่รับรองว่าในการใช้ระยะยาว (หรือไม่นานมาก) ก็คุ้มค่ากว่าแน่นอน

GLOW-PLUG igniter :
ตัวนี้จะช่วยทำให้ glow-plug ในเครื่องยนต์เกิดการสันดาบเร็วขึ้น ทำให้เครื่องยนต์ติดง่าย และในขณะเดียวกันเวลารถวิ่งความร้อนจากการเผาไหม้จะช่วยรักษาอุณหภูมิของ glow-plug ให้ร้อนเราก็สามารถเอาตัว glow-plug igniter ออกได้


ELECTRIC STARTER :
รถ RC ทั่วๆไปจะมี pull starter (เหมือนๆที่เราเห็นในเครื่องตัดหญ้า) แต่ไม่จำเป็นต้องมีตัว electric starter แต่สำหรับเครื่องที่ไม่มีตัว pull starter มาให้นั้น คุณต้องไปใช้ตัว starter 12 โวลล์ หรือ electric starter แทน ซึ่ง starter ทั้งสองแบบจะมีที่หมุนและล้อพลาสติก ซึ่งจะไปดัน flywheel ทำให้เพลาข้อเสือของเครื่องยนต์หมุนและทำให้เครื่องยนต์ติดนั่นเอง


เชื้อเพลิงไนโตร :
หรือที่ส่วนใหญ่เรียกกันว่าพลังงานแก๊ส (gas power) เครื่องยนต์ไนโตรไม่สามารถใช้ได้กับน้ำมันรถทั่วๆไป เนื่องจากรถ RC จะใช้เชื้อเพลิงที่เป็นสารประกอบระหว่าง ไนโตรมีเทน กัน ซินเทอติค ไม่ก็ castor oil เท่านั้น ซึ่งล้วนแต่เป็นสารที่ติดไฟง่ายดังนั้นในการใช้จึงต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ถึงเเม้ว่าจะติดไฟได้ยากกว่าพวกสารระเหยหรือน้ำมันเชื้อเพลิงปกติก็ตาม


FUEL BOTTLE :
ขวดสำหรับเติมเชื้อเพลิงจะเป็นขวดเล็กๆสามารถบีบได้ มีคอยาวออกมาทำให้ง่ายต่อการเติมถังน้ำมัน ไว้ใช้สำหรับแบ่งน้ำมันจากถังน้ำมันใหญ่เพื่อให้สะดวกและไม่เลอะเทอะ

posted by Thamonwan Virodchaiyan
ID :4810760952
reference
http://209.196.57.98/ME2/Sites/dirsect.asp?sid=120E4675FD9640869F83360036C3FD32&nm=Getting+Started%3A+Engine+Powered#engine

ข้อเปรียบเทียบระหว่าง รถบังคับพลังงานไนโตร และ พลังงานไฟฟ้า ตอนที่ 2

ข้อเปรียบเทียบระหว่าง รถบังคับพลังงานไนโตร และ พลังงานไฟฟ้า ตอนที่ 2

รถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า จะมียางล้อที่มีขนาดใหญ่ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 540 มีระบบกันกระแทก

รถบรรทุกวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้านั้นเป็นที่นิยมมาก ระบบซึมซับและมีระบบกันการกระแทกพื้นผิวที่เสถียร

มีเดือยแหลมที่มักจะทำด้วยยางติดไว้ที่ล้อยาง ระบบขับเคลื่อนสองล้อยังคงเป็นที่นิยมสำหรับรถรุ่นนี้ ถึงแม้ว่าคนส่วนมากจะเลือกใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อก็ตาม

สมัยก่อนรถบังคับไฟฟ้าจะอยู่ที่ 1/12 วิ่งบนพื้นถนน แต่ทุกวันนี้พวกมันวิ่งทั้งในร่มและข้างนอก ไม่ว่าจะบนถนนดิน พื้นพรม

พวกมันใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 540 และใช้ถ่าน4หรือ 7ก้อน รถบางประเภทจะใช้ยางแบบโฟมซึ่งมีน้ำหนักเบา

เพราะว่ามันมีขนาดเล็ก 1/12 รถจึงมีน้ำหนักเบามาก และมีพลังงานสูงมาก สามารถวิ่งได้อย่างต่ำ 30 ไมล์ต่อชม.ซึ่งใช้กับมอเตอร์มาบูชิที่ใช้กันเป็นพื้นฐาน

รถแบบใช้ก๊าซ1/10มีความคล้ายคลึงกันกับรถที่ใช้ไฟฟ้าแต่ว่ามีพลังมากกว่ารวมไปถึงมี 2-speed transmission

อ้างอิง http://www.radio-cars.info/23/nitro-%e2%80%9cgas%e2%80%9d-electric-rc-cars-a-comparison/2/

Translate By Thanapol Meethissom
4810750986

อุปกรณ์สำหรับซ่อมพื้นฐาน


ในบางกรณี R/C kits ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าก็สามารถนำมาประกอบได้ด้วยเครื่องมือง่ายๆ โดยทั่วไปเครื่องมือที่ต้องใช้คือ ไขควง,ไขควง Phillips, มีดงานอดิเรก, คีมจมูกแหลม ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะรวม allenhead wrenches และ น้ำมันหล่อลื่น ไว้ด้วยเพื่อให้ครบชุด

posted by Thamonwan Virodchaiyan

แบตเตอรี่และที่ชาร์ต


หากเทียบกับเครื่องยนต์เชื้อเพลิงแล้ว สำหรับเครื่องยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ก็เปลี่ยนเสมือนถังน้ำมันนั้นเอง เมื่อมันหมดเราก็ต้องเติมเช่นเดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนจากเชื้อเพลิงเป็นกระแสไฟฟ้าโดยให้ที่ชาร์ตแบตเตอรี่เป็นตัวอัดไฟเข้าไปนั้นเอง แบตเตอรี่มีประจุไฟฟ้าให้เลือกต่างกัน วัดในหน่วย มิลลิแอมแปร์ชั่วโมง หมายความว่า แบตเตอรี่แบบ 2000 จะสามารถกักเก็บปพลังงานได้ 2000 มิลลิแอมแปร์ ซึ่งจะช่วยให้รถสามารถวิ่งได้นานกว่าพวก 1500 มิลลิแอมแปร์ สำหรับรถที่ใช้เชื้อเพลิง หากน้ำมันลดลงก็ไม่ได้หมายความว่าความเร็วของรถจะตกลงตามเช่นเดียวกับเครื่องยนต์ไฟฟ้าการที่ประจุไฟฟ้า (capacity) ลดลงก็ไม่ได้หมายความว่ารถจะวิ่งช้าลงเช่นกัน

การควบคุมความเร็วเบื้องต้น



รถบังคับแบบไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับตัวควบคุมแบบ mechanical หลักการทำงานของมันก็ง่ายๆเพียงแค่ให้ servo แต่ละตัวซึ่งจะส่งแรงขับเคลื่อนไปข้างหน้า (ปกติแล้วจะใช้ 3 ตัว) ทำให้รถวิ่งไปด้านหน้า ในลักษณะเดียวกันหากต้องการให้รถถอยหลังตัว servo นี้ก็จะส่งแรงในทางกลับกัน เครื่องแบบ mechanical ถือว่าทำงานค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับราคาของมัน เพราะมันมีราคาถูกมากรวมทั้งยังมาพร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆครบครัน ช่วยให้ผู้ที่เริ่มหัดเล่นรถ RC Car สามารถใช้งานได้ง่ายและยังสามารถเรียนรู้ที่จะปรับแต่งรถได้อย่างไม่ยากเย็นนักอีกด้วย

เมื่อคุณเรียนรู้การเล่นรถ หรือทำงานกับมันไปสักระยะ คนส่วนใหญ่จะปรับแต่งตัว electronic speed control (ESC) ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งก็ทำได้เองไม่ยากเพียงแค่ใส่ electronic switching device ลงไปแทนที่ส่วนของ mechanical unit และตัว servo เพิ่มเติม ซึ่งเมื่อใส่ตัว ESC เข้าไปแล้ว คุณจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างเลยทีเดียว เนื่องจาก ESC จะไปช่วยให้ในส่วนของตัวควบคุมการไหลของกระแสไฟมีความแม่นยำขึ้นมาก ไม่จำเป็นต้องมานั่งบำรุงรักษา ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และที่สำคัญด้วยการที่ ESC เป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆดังนั้นจึงไม่ไปเพิ่มน้ำหนัก หรือกินพื้นที่ของตัวรถอีกด้วย ซึ่งตัว ESC นี่ก็มีมากมายหลายแบบให้เลือก หลายราคาให้เลือกทั้งแบบที่ใช้สำหรับรถแข่งโดยเฉพาะซึ่งก็จะมีราคาแพงไปจนถึงแบบธรรมดาราคาประหยัด ซึ่งในการเลือกใช้ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ตัวแพงหรือถูกก็ตามแต่ก็อย่าลืมว่าตัว ESC ที่เราเลือกนั้นจะต้องเข้ากับตัวควบคุมความเร็วและจุดประสงค์ในการใช้ ด้วย

posted by Thamonwan Virodchaiyan
ID : 4810750952