เป็นความจริงที่ว่าไม่ช้าก็เร็วเครื่องยนต์ของคุณอาจจะ สตาร์ทไม่ติด หรือ อาจจะใช้งานได้ไม่นาน อย่าพึ่งทำอะไรกับลูกสูบ หรือว่าน้ำรถของคุณไปชาร์จแบตเตอร์รี่ ปัญหารถสตาร์ทติดยากแก้ไขได้ง่ายกว่าที่คิดทำตาม ขั้นตอนเหล่านี้
คุณจะได้สู่สวรรค์ของรถไนโตรได้อย่างรวดเร็ว
1.มีอะไรมาอุดตันหรือเปล่า
ก่อนที่เราจะเริ่มแก้ไขปัญหาเราต้องมั่นใจก่อนว่าลูกสูบและกระบอกสูบไม่ร้อน ถอด glow plug หัวเทียน และ ใช้นิ้วหมุนล้อเฟือง ขณะที่ลูกสูบเคลื่อนที่มาถึงจุดสูงสุดอย่างน้อยเราจะต้องรู้สึกถึงแรงต้านที่กระบอกสูบอัดลูกสูบ ถ้าลูกสูบอยู่ในตำแหน่งที่พอดีจะส่งผลต่อสรรถนะของเครื่องยนต์อย่างมาก ถ้าเราไม่รู้สึกถึงแรงบีบเราจะต้องเปลี่ยนกระบอกสูบและลูกสูบใหม่
2.ตรวจสอบ ระบบให้ความร้อนเครื่องยนต์
ไม่ว่าจะเป็นนักเล่นเริ่มแรกรถบังคับ RC ก็ควรจะรู้ว่าเวลามีปัญหาในการติดเครื่องยนต์นั้นอย่าแรกก็คือต้องตรวจสอบระบบให้ความร้อนหรือระบบจุดระเบิดเพื่อสตาร์ดเครื่องยนต์ “Glow plug”ส่วนที่ที่ช่วยจุดระเบิด หรือ ขดลวดที่ช่วยสตาร์ดเครื่องเท่านั้น แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะตรวจสอบส่วนต่างๆที่เกียวข้องด้วยเช่น ส่วนที่เป็ขนตัวให้ความร้อนขดลวด “Glow starter” ต้องตรวจให้แน่ใจว่า ถ่านที่ใส่นั้นต้องเต็มหรือเป็นถ่านใหม่พอที่ให้พลังงานความร้อนขดลวดได้พอเพียงในการตืดเครื่อง ทั้งยังต้องตรวจสภาพขอจุดสัมผัสระว่างขดลวดกับตัวให้พลังงานว่าสะอาดรึเปล่า หลังจากนั้นก็กดสองส่วนนั้นให้ติดกันจะเห็นว่าขดลวดมันจะกลายเป็นสีส้มแจ๊ด ถ้าเกิดขดลวดเปล่งเป็นสีแดงเข้มหรือไม่เปล่งสีเลยเราต้องสงสัยเลยว่าที่ให้ความร้อนขดลวดนั้นชารต์มาเต็มแล้ว หร้อมทั้งจุดสัมผัสที่สะอาดและแน่น ถ้าไม่เช่นนั้นก็แสดงว่า “plug” หรือว่าส่วนเชื่อมต่อชิ้นนี้นั้นเอง
ถ้าคุณมีที่สตาร์ดแบบระบบไฟฟ้า การตรวจสภาพจะเหมือนกันกับแบบที่ใช้ ต้องชารต์ปล๊กแล้วดันสองส่วนเข้าหากันเพื่อให้ระบบเผาไหม้เริ่มขั้นดั้งที่กล่าวมาข้างต้น แต่ว่าเวลาเป็นระบบไฟฟ้าคุณต้องอย่าลืมว่า ปล๊กนั้นจะต้องสัมผัสกับหัว “heat-sink”หรือขดลวดที่ดูดซับความร้อนและกระจายความร้อนจากส่วนที่มันสัมผัสโดน ระหว่างที่เรากำลังสตาร์ดเครื่องหรือหมุนเครื่องเพื่อสตาร์ด ถ้าไม่เช่นนั้น ปล๊กจะไม่เปล่งแสงเพราะว่าวงจรนี้ไม่สมบูรณ์
3.ทำการตรวจสอบความแน่นขององค์ประกอบในเครื่องยนต์
ทำให้แน่ใจว่า “heat-sink” หรือขดลวดที่ดูดซับความร้อนและกระจายความร้อนจากส่วนที่มันสัมผัสโดน ขันเข้ากับแผ่นรองที่เป็นเหล็กขอลวดแน่นดีแล้วทั้งยังต้องตรวจว่ามันเข้าที่ที่ถูกต้องรึเปล่าเพื่อความมั่นใจอีกขั้นหนึ่งว่ามันแน่นดีแล้ว เวลาขันน๊อตส์นั้นต้องขันให้แน่นพร้อมๆกันไม่งั้นอาจจะทำให้แผ่นที่เป็นเหล็กรองบิดเบี้ยวหรืองงทำให้ ขอลวดนั้นไม่สามารถทาบกับเครื่องยนต์ได้เต็มพื้นผิว ซึ่งนี้จะทำให้ขอลวดนั้นใช้งานไม่ได้เต็มที่แล้วอาจจะทำให้เครื่องยนต์ความร้อนขึ้นสูงเกินไปด้วย
4.นึกถึงอาการรั่ว ซึม…
ระหว่างที่กำลังกระตุกที่สตาร์ดเครื่องคือเมื่อเครื่องกำลังติดนั้นให้ตรวจดูที่ปะเก็น วงแหวน หรือ วงแหวน o-ring ที่กันรั่วระหว่างคาบูเรเตอร์และแผ่นรอง ถ้ารู้สึกถึงอากาศที่รั่วออกมาแสดงว่ามีรูรั่วให้เปลี่ยนโดยทันที และสามารถป้องกันโดยที่เคลือบอุดรอยรั่วที่ทำมาจาก “Ultra copper sealant” หรือจะเป็นอะไรที่เคลือบป้องกันการรั่วของอากาศจากเครื่องยนต์ก็ได้
5.รู้ถึงขอบเขตในการทำงานของเครื่องยนต์
ถ้าเกิดว่าเครื่องยนต์สามารถสตาร์ดติดได้ง่ายแต่ว่าดับทันทีที่น้ำมันหมด คุณควรจะเช็คน๊อตควมคุมเล็กๆที่อยู่ตรงที่เปิดปิดของคาบูเรเตอร์ หมุนน๊อตเพื่อให้ คาบูเรเตอร์มีช่องว่างประมาณ 1มม เมื่อมีการหยุดเต็มที่ ถ้าน๊อตสามารถหมุนได้ง่ายๆคุณควรจะใส่น้ำมันล็อกไปสักหนึ่งหยดเพื่อป้องกันเกลียวคลายเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางการสั่นสะเทืองของเครื่องยนต์เวลาเครื่องยนต์ทำงานซึ่งอาจทำให้ตำแหน่งที่เราตั้งไว้คลาดเคลื่อนได้
6.การปรับเข็ม
ถ้าเรากำลังมีปัญหากับการปรับเข็มที่คาร์บูเรเตอร์อยู่ล่ะก็ เราควรจะปรับเข็มให้ตรงตามที่คู่มือระบุเสียก่อน แต่ถัาไม่มีคู่มือล่ะก็ ปกติแล้วสำหรับรถทั่วๆไปจุดเริ่มต้นที่ดีคือ แนวราบสำหรับเข็มรอบต่ำ และ หมุนสองรอบสำหรับเข็มรอบสูง
7.การส่งเชื้อเพลิงเป็นอย่างไร
เพียงแค่รูรั่วรูเล็กๆบนท่อส่งเชื้่อเพลิงก็สามารถสร้างปัญหาให้กับการทำงานของเครื่องยนต์ได้ หรือว่าถ้าไม่แน่ใจการเปลี่ยนท่อลำเลียงเชื้อเพลิงใหม่ก็เป็นอะไรที่ไม่แพงและ ง่ายมากในการแก้ปัญหา
8.ถังเชื้อเพลิง
ถังเชื้อเพลิงของเราไม่ได้ทำด้วยไม้ ดังนั้นมองหาสิ่งแปลกปลอมที่จะเกาะอยู่ตรงช่วงท่อส่งเชื้อเพลิง และเอามันออกมา ในทำนองเดียวกันเราควรตรวจสอบไส้กรองเชื้อเพลิงบ่อยๆเพราะมันอาจจะมีเศษสิ่งสกปรกต่างๆมาอุดตันทางเดินเชื้อเพลิง ถ้าเราไม่ทำความสะอาดมันบ่อยๆ และสิ่งสุดท้ายนำตัวปั๊มอากาศออกและอุดรูด้วยสกรู หรือ ซิลิโคนแทน เพราะว่ามันอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการรั่วซึม
9.เปลี่ยนเชื้อเพลิง
ถ้าเกิดว่าเชื้อเพลิงของเราอยู่ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นเป็นเวลานานก็เป็นไปได้ที่คุณภาพของมันจะไม่ดี ดังนั้นนำเชื้อเพลิงถังใหม่มาเปลี่ยน และ เก็บเชื้อเพลิงส่วนที่เหลือไว้ในที่ที่เย็น แห้ง ไม่มีแสงแดดและความร้อน และเก็บห่างจากพื้น บางทีถ้าเราต้องอกไปข้างนอก เช่นไปแข่งรถกระเป๋าทำความเย็นจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะป้องกันความร้อนจากแสงแดด
Posted by:Sarantorn Bisalbutra
ID:4810750903
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น